คุณชอบเว็บนี้มากเเค่ไหน

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"มัทนะพาธา" ตำนานรักดอกกุหลาบ

                                                                                             
                                                                                                               

มัทนะพาธา


พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า)
มัทนะพาธาหรือตำนานแห่งดอกกุหลาบเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว(พ.ศ. 2424 - 2468) เป็นบทละครพูดคำฉันท์ 5 องค์ พระบาทสมเด็จ พระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น เมื่อพ.ศ.2466 วรรณคดีสโมสร ได้ยกย่องว่า เป็นหนังสือแต่งดี เพราะทรงพระราชดำริให้ใช้คำฉันท์เป็นละครพูดอันเป็นของแปลกในกระบวนวรรณคดีและแต่งได้โดยยาก



มัทนา มาจากศัพท์ มทน แปลว่า ความลุ่มหลงหรือความรัก
                                   มัทนะพาธาจึงมีความหมายว่า ความเจ็บปวดและความเดือนร้อนเพราะความรัก 




ความเป็นมา           
           มัทนะพาธาเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องเอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรให้เป็นหนังสือที่แต่งดี ใช้ฉันท์เป็นบทละครพูดซึ่งแปลกและแต่งได้ยาก เป็นเรื่ิองที่มีตัวละครและฉากสอดคล้องกัน วัฒนธรรมภารตะโบราณและเข้ากับเนื้อเรื่องได้ดี

ลักษณะการแต่ง
           และตอนใดที่เน้น เรื่องมัทนะพาธาใช้คำประพันธ์หลายชนิดแต่เน้นแต่งด้วยฉันท์ บางตอนใช้กาพย์ยานี กาพย์ฉบังหรือกาพย์สุรางคนางค์ และมีบทเจรจาร้อยแก้วในส่วนของตัวละครที่ไม่สำคัญ ทำให้มีลีลาภาษาที่หลากหลาย ตอนใดดำเนินเรื่องรวดเร็วก็ใช้ร้อยแก้ว ตอนใดต้องการจังหวะเสียงและความคล้องจองก็ใช้กาพย์ อารมณ์มากก็มักใช้ฉันท์ เช่น ตอนที่สุเทษณ์ตัดพ้อและมัทนาเจรจาตอบใช้วสันตดิลก แสดงจังหวะรวดเร็วของถ้อยคำเสริมให้คารมโต้ตอบกันมีลีลาฉับไวและทันกัน

เรื่องย่อ        
            มัทนะพาธาเป็นเรื่องสมมุติว่าเกิดในอินเดียโบราณ เนื้อเรื่องกล่าวถึงเหตุการณ์บนสวรรค์ เทพบุตรสุเทษณ์หลงรักเทพธิดามัทนา แต่นางไม่ปลงใจด้วย สุเทษณ์จึงขอให้วิทยาธรมายาวินใช้เวทมนตร์สะกดเรียกนางมา มัทนาเจรจาตอบสุเทษณ์อย่างคนไม่รู้สึกตัว สุเทษณ์จึงไม่โปรด เมื่อขอให้มายาวินคลายมนตร์ มัทนาก็รู้สึกตัวและตอบปฏิเสธสุเทษณ์ สุเทษณ์โกรธ จึงสาปให้เธอจุติไปเกิดบนโลกมนุษย์ มัทนาขอไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ สุเทษณ์กำหนดว่า ให้ดอกกุหลาบดอกนั้นกลายเป็นมนุษย์เฉพาะวันเพ็ญเพียงวันและคืนเดียว ต่อเมื่อมีความรักจึงจะพ้นสภาพจากเป็นดอกไม้ และหากเป็นความทุกข์เพราะความรักก็ให้วิงวอนต่อพระองค์ พระองค์จะช่วย
           ณ  กลางป่าหิมะวัน ฤษีกาละทรรศินพบ ต้นกุหลาบจึงขุดไปปลูกไว้ที่อาศรม เมื่อมัทนากลายเป็นมนุษย์ก็เลี้ยงดูรักใคร่เหมือนลูก ท้าวชัยเสนกษัตริย์แห่งเมืองหัสตินาปุระเสด็จไปล่าสัตว์ ได้พบนางมัทนาก็เกิดความรัก มัทนาก็มีใจเสน่หาต่อชัยเสนด้วยเช่นกัน ทั้งสองจึงสาบานรักต่อกัน และมัทนาไม่ต้องกลับไปเป็นกุหลาบอีก แต่เมื่อชัยเสนพามัทนาไปยังเมืองหัสตินาปุระของพระองค์ พระนางจัณฑีมเหสีของชัยเสนหึงหวงและแค้นใจมาก นางขอให้พระบิดาซึ่งเป็นพระราชาแคว้นมคธยกทัพมาตีหัสตินาปุระ จัณฑียังใช้ให้นางค่อมข้าหลวงทำกลอุบายว่า มัทนารักกับศุภางค์ทหารเอกของชัยเสน ชัยเสนหลงเชื่อจึงสั่งให้ประหารมัทนาและศุภางค์ แต่ต่อมาเมื่อชัยเสนรู้ว่ามัทนาและศุภางค์ไม่มีความผิดก็เสียใจมาก อำมาตย์เอกจึงทูลความจริงว่ายังมิได้สังหารนาง และศิษย์ของพระกาละทรรศินได้พานางกลับไปอยู่ในป่าหิมะวันแล้ว ส่วนศุภางค์ก็เป็นอิสระเช่นกัน และได้ออกต่อสู้กับข้าศึกจนตายอย่างทหารหาญ ชัยเสนจึงเดินทางไปรับนางมัทนา ขณะนั้นมัทนาทูลขอให้สุเทษณ์รับนางกลับไปสวรรค์ สุเทษณ์ขอให้นางรับรักตนก่อน แต่มัทนายังคงปฏิเสธ สุเทษณ์กริ้วจึงสาปให้มัทนาเป็นกุหลาบตลอดไป ชัยเสนมาถึงแต่ก็ไม่ทันการณ์ จึงได้แต่นำต้นกุหลาบกลับไปยังเมืองหัสตินาปุระ
          ตอนที่เลือกมาให้เรียนนี้อยู่ในองค์ที่ ๑  เมื่อมายาวินทำพิธีสะกดพามัทนามาพบสุเทษณ์ไปจนจบองก์เมื่อสุเทษณ์สาปมัทนา
          มัทนะพาธาเป็นเรื่องที่สมมุติว่าเป็นกำเนิดของต้นกุหลาบ มีการผูกเรื่องให้เกิดความขัดแย้งซึ่งเป็นปมปัญหาของเรื่อง กล่่าวคือ สุเทษณ์หลงรักมัทนา แต่มัทนาไม่รับรัก สุเทษณ์จึงกริ้ว มัทนาต้องลงมาเกิดในโลกมนุษย์เป็นการชดใช้โทษ เมื่อพบรักกับชัยเสน ความรักก็ไม่ราบรื่นเพราะมีอุปสรรคคือนางจันฑี มัทนาต้องถูกพรากไปจากชัยเสน และได้พบสุเทษณ์อีกครั้งหนึ่ง แต่มัทนาก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากชัยเสนมารักสุเทษณ์ เรื่องจึงจบด้วยความสูญเสีย สุเทษณ์ไม่สมหวังในความรัก ชัยเสนสูญเสียคนรัก และมัทนาต้องเปลี่ยนสภาพมาเป็นเพียงดอกกุหลาบ

คุณค่า/แง่คิด 

            มัทนะพาธาเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องเอกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรให้เป็นหนังสือที่แต่งดี ใช้ฉันท์เป็นบทละครพูดซึ่งแปลกและแต่งได้ยาก เป็นเรื่ิองที่มีตัวละครและฉากสอดคล้องกัน วัฒนธรรมภารตะโบราณและเข้ากับเนื้อเรื่องได้ดี  สอนให้รู้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดจากความรัก รู้ถึงโทษของความรัก  

 



     


อ้างอิง  http://www.sahavicha.com
             http://www.thaigoodview.com

10 ความคิดเห็น:

  1. อ่านเลยได้ความรู้ว่า มัทนา มาจากศัพท์ มทน แปลว่า ความลุ่มหลงหรือความรัก มัทนะพาธาจึงมีความหมายว่า ความเจ็บปวดและความเดือนร้อนเพราะความรัก

    ตอบลบ
  2. รักวรรณคดีเหมือนกันครับ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ :)

    ตอบลบ
  4. สาระดีมากครับ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  5. เป็นเรื่องที่สนุกมากครับ มีการใช้คำสละสลวย อ่านได้ลื่นไหลมากครับ

    ตอบลบ
  6. เป็นเรื่องที่แต่งยากมากครับ มีการใช้ฉันท์ที่ยาก ร.6ท่านทรงแสดงความสามารถออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

    ตอบลบ
  7. ในเรื่องมัทนะพาธา พอจะอนุมานความรักของตัวละครได้ว่านางจัณฑีทุกข์เพราะชัยเสนหมดรักนาง นางมัทนาเป็นทุกข์เพราะต้องพรากจากสามีที่รัก ส่วนชัยเสนเป็นทุกข์เพราะสูญเสียนางที่รัก และสุดท้ายสุเทษณะเป็นทุกข์เพราะนาง มัทนาไม่ได้รัก นักเรียนคิดว่าในสี่กรณีนี้ใครน่าจะเป็นทุกข์ที่สุด เพราะเหตุใด
    ช่วยตอบบบหน่อยค่ะ

    ตอบลบ